13 พฤษภาคม 2555

เตรียมความพร้อมก่อนปลูก: ล้างราก เมื่อไรดี


ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนเลย ชื่อ ตาว ค่ะ เป็นผู้ดูแลบ้านแสงอาทิตย์คนน้อง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพี่เต้ได้โพสบล็อกซื้อต้นไม้ไปแล้ว เมื่อเราได้ต้นไม้ใหม่มา เราก็ต้องเตรียมความพร้อมให้น้องใหม่ของเราก่อนจะเข้าบ้านซะหน่อย (เหมือนการรับน้องในมหาลัยเลยเนอะ) เพื่อให้กระบองเพชรมีการเจริญเติบโตที่ดี และดูเปล่งปลั่งให้เราได้ชื่นชม


เริ่มแรกเมื่อเราได้ต้นไม้ใหม่มา เราต้องตรวจดูสภาพต้นไม้กันก่อนค่ะ ว่ากระบองเพชรน้องใหม่ของเรานั้นกำลังเจริญเติบโตดีหรือไม่ หลักการดูก็ไม่ยากค่ะ เราก็ดูว่ายอดเดินดีหรือเปล่า (คือบริเวณยอดมีหนามใหม่ สีจะเข้มหรืออ่อนกว่าหนามเก่า อย่างนี้ก็แสดงว่ากำลังมีการเจริญเติบโต) ขนาดต้นกับกระถางเดิมแน่นไปหรือเปล่า ดินเดิมที่น้องกระบองเพชรอยู่มีสภาพเป็นอย่างไร  ถ้าหากว่าต้นไม้ยอดไม่เดิน  ต้นไม้โตคับแน่นกระถาง หรือว่าดินที่มากับต้นไม้มีคุณภาพไม่ดี เช่นชื้น แห้งแข็ง หรือเก่าเกินไป เราก็ควรจะทำการเปลี่ยนกระถางค่ะ

ในกรณีที่ดินเดิมยังมีคุณภาพดี ไม่แข็งจนเกินไป เราก็สามารถนำกระบองเพชรน้อย ๆ ของเราออกจากกระถางเก่าแล้วปลูกลงกระถางใหม่ได้เลย อย่างไรก็ตามควรพยายามบี้ๆเพื่อเอาดินเก่าออกบ้าง เนื่องจากเราไม่มีทางรู้ได้ว่าดินเดิมอยู่กับต้นไม้มานานแค่ไหนแล้ว ซึ่งยิ่งดินอยู่กับต้นไม้นาน ธาตุอาหารในดินก็จะยิ่งลดน้อยลง การใช้ดินใหม่ จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า สูตรดินของแต่ละคนก็อาจจะแตกต่างกันไป แต่หลัก ๆ แล้วคือเลือกส่วนผสมของดินให้ดินมีความโปร่ง ระบายน้ำและอากาศได้ดี โดยเมื่อรดน้ำไปแล้ว ดินควรจะแห้งภายใน 2-3 วัน ส่วนผสมอย่างง่ายๆก็อาจจะใช้วัสดุปลูกกลุ่มอินทรีย์ (เช่น ดิน ขุยมะพร้าว แกลบ) รวม 1 ส่วน วัสดุปลูกกลุ่มอนินทรีย์ (เช่น ทรายหยาบ เพอร์ไลท์ เวอร์มิคูไลท์ หินภูเขาไฟ เม็ดโฟม) รวม 1-2 ส่วน ปุ๋ยเล็กน้อย และอาจผสม ยากันราหรือยากันแมลงเล็กน้อยลงไปด้วย

ขนาดกระถางก็มีความสำคัญมาก ควรเลือกกระถางให้เหมาะกับขนาดของระบบรากของต้นไม้ ไม่ควรเลือกกระถางใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้เกินการอุ้มน้ำมากเกินความจำเป็น กระถางจะชื้นแฉะมากเกินไป และจะทำให้ต้นไม้เน่าตายจากอาการรากเน่า (Root rot) ได้ในที่สุด หลักการง่ายๆในการเลือกกระถางคือ กะขนาดความกว้างขอบกระถางให้มีพื้นที่เหลือรอบต้นกระบองเพชรประมาณ 1 ซม. - 1 นิ้ว

หากดินที่มากับต้นไม้มีลักษณะแห้งแข็งมาก หรือรากต้นไม้เยอะมากพันกันแน่นจนแทงทะลุก้นกระถาง อันนี้ก่อนย้ายกระถางควรมีการล้างรากเอาดินเก่าออกให้มากที่สุด และควรมีการตัดแต่งราก เพื่อให้ระบบรากของต้นไม้มีความโปร่งมากขึ้น การตัดแต่งรากอาจจะทำให้ต้นไม้พักตัวไประยะหนึ่ง แต่เมื่อรากเริ่มเดินแล้ว ต้นไม้จะงอกงามกว่าเก่ามากอย่างผิดหูผิดตาเลยทีเดียว ข้อดีอีกอย่างของการล้างราก คือเป็นการจำกัดเหล่าแมลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพลี้ยแป้ง ซึ่งอาจจะทำรังอยู่บริเวณรากของต้นไม้สุดรักสุดหวงของเรา

วิธีการล้างรากก็ทำได้โดยเอาต้นไม้ไปจุ่มน้ำ หรือถ้าติดแน่นมากก็เอาทั้งกระถางลงน้ำไปเลย น้ำจะช่วยทำให้ดินแข็งๆอ่อนตัวลง แล้วก็เอามือช่วยบีบ ๆ ให้ดินคลายตัวก็ได้ รากฟอยๆจะขาดบ้างไม่เป็นไร ทำใจกล้าๆดึงทิ้งไปเลย เก็บไว้แต่รากหลักๆก็พอ เมื่อแห้งสะอาดดีแล้วก็เอาขึ้นมาตัดแต่งราก อาจจะใช้มือ หรือกรรไกรตัดรากเล็กๆออก กะว่าให้มีความโปร่งสบาย เมื่อเรียบร้อยแล้วหากอยากจะให้สบายใจมากขึ้น ก็เอาบริเวณรากชุบน้ำยาหรือผงยากันราสักเล็กน้อย แต่เท่าที่ตาวเคยทำมา ถึงจะไม่ชุบยาอะไรเลย ต้นไม้ก็ไม่ตายค่ะ เสร็จแล้ว เราก็เอาต้นไม้วางผึ่งลมทิ้งไว้ ประมาณ 3-7 วัน เพื่อให้แผลที่รากแห้ง แล้วค่อยเริ่มการปลูกลงกระถางใหม่ ห้ามให้ต้นกระบองเพชรที่ล้างรากแล้วโดนแดดโดยตรงโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นต้นไม้อาจจะไหม้ตายก่อนได้ปลูกลงกระถางใหม่ ข้อ เสียหลัก ๆ ของการล้างรากก็คือ ต้องรอให้รากน้องกระบองเพชรแห้งก่อนประมาณ 1 อาทิตย์ กว่าจะปลูกใหม่ได้ และต้นไม้จะดูนิ่งๆไประยะหนึ่ง เพราะว่าเขาต้องการเวลาในการออกรากใหม่ อาจจะไม่ทันใจใครหลาย ๆ คน แต่ตาวก็ต้องบอกว่ามันคุ้มค่ากับการรอคอยจริง ๆ นะ คอนเฟริม! ถ้าระบบรากใหม่เดินดีแล้วละก็ ทีนี้ละโตแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ออกดอกกันอุตลุดเลยล่ะค่า!!


เตรียมพร้อมก่อนการล้างราก
พาน้องแคคตัสลงเล่นน้ำ
ผึ่งลมให้รากแห้ง
นี่ก็ถือเป็นอันเสร็จขั้นแรกของการเตรียมปลูกกระบองเพชรแล้วค่ะ ตอนต่อไปจะมาเจาะลึกเรื่องการปลูก การเลือกอุปกรณ์ สิ่งที่ต้องใช้ แบบจัดเต็ม รับรองว่าการปลูกกระบองเพชรนั้นไม่ยากอย่างที่คุณคิด

....รู้หรือไม่....กระบองเพชรหรือแคคตัส เป็นโรคกลัวน้ำ!?! ด้วยความที่กระบองเพชรที่ถิ่นกำเนิดอยู่ตามทะเลทราย จึงมีระบบการกักเก็บน้ำในลำต้นไว้ เหมือนกับอูฐ ระบบรากเค้าพัฒนามาเพื่อนการดูดน้ำ เรียกว่าเก็บทุกเม็ดทุกช็อตกันเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าให้น้ำกระบองเพชรเยอะเกินไป เค้าอาจจะดูดน้ำจนท้องแตกตาย (แตกจริงๆนะคะ บางต้นต้นปริได้เลย) หรือรากแฉะนานเกินไปจนเน่าตายได้ ดังนั้นอย่ารดน้ำเค้าเยอะเกินไปนะจ๊ะ

ติตตาม พูดคุยกับตาวและพี่เต้ ได้ที่ http://www.facebook.com/sunlitgreenhouse.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น